วันพุธที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

"อภิสิทธิ์"ปลื้มผลการเยือนกาตาร์

นายกรัฐมนตรี ปลื้มผลงานเยือนกาตาร์ ตั้งเป้าเพิ่มพูนการค้าการลงทุนทั้งอาหารและภาคการเกษตร พร้อมจับมือช่วยเป็นตัวกลางประสานโอไอซี ดับไฟใต้ ...

เมื่อเวลา 19.00 น.ที่ศูนย์แถลงข่าว ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์จากรัฐกาตาร์ถึงการเดินทางไปเยือนรัฐกาตาร์อย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 24-26 พ.ย.ว่า ในภาพรวมการกับเจ้าผู้ครองรัฐกาตาร์ นายกรัฐมนตรีกาตาร์และส่วนอื่นๆ ในเรื่องการตั้งเป้าเพิ่มพูนการค้าการลงทุนทั้งอาหารและภาคการเกษตร ซึ่งเจ้าผู้ครองรัฐกาตาร์ต้องการเข้ามาช่วยดูแลความเป็นอยู่ของประชาชนในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ต่อไปจะมีการเสนอโครงการเลี้ยงสัตว์นำมาสู่อุตสาหกรรมอาหารที่จะส่งออกมายังกาตาร์และตลาดอื่นๆ

นอกจากนี้ที่กาตาร์ ส่วนใหญ่มีแต่การก่อสร้าง ซึ่งอุตสาหกรรมก่อสร้างนั้นรัฐบาลต้องการสนับสนุนให้คนไปทำงานที่ต่างประเทศ จึงเป็นอีกลู่ทางที่จะมาทำธุรกิจได้ รวมทั้งเรื่องของคนไทยที่มีหมื่นกว่าคนก็จะมีการขยายกรอบโดยให้บริษัทก่อสร้างนำคนงานเข้ามาเพื่อให้คนไทยมีรายได้เพิ่มขึ้น ส่วนเรื่องพลังงานนั้นมีการขายแก๊สและร่วมลงทุน กับปตท.และซีเมนต์ไทย สำหรับเรื่องการเงินที่นี่มีความพร้อมในเรื่องของการลงทุนค่อนข้างเยอะ ซึ่งเขาให้ความสนใจภูมิภาคเอเซียและประเทศไทย ส่วนในเรื่องของการบริการสุขภาพมีทั้งส่วนที่เป็นคนของกาตาร์ไปรักษาพยาบาล ที่ประเทศไทยและมีความต้องการให้โรงพยาบาลของไทยมาบริหารจัดการโรงพยาบาลที่นี่ด้วย

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ส่วนความร่วมมือการแก้ปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ในฐานะที่กาตาร์มีบทบาทอยู่ในองค์กรมุสลิมโลก(โอไอซี)นั้น กาตาร์ มีส่วนสำคัญในการทำความเข้าใจทั้งในเวทีโอไอซีและในแง่ของประเทศในแถบนี้ก็ช่วยทำความเข้าใจให้ประเทศไทย ซึ่งเขามีความตั้งใจที่จะช่วยทำความเข้าใจและเข้าใจในแนวทางของรัฐบาลในการแก้ปัญหาในพื้นที่

สำหรับเรื่องของการตั้งเมืองการศึกษา(Education City) เป็นการดึงเอาสถาบันชั้นนำของโลกมาเปิดสอนที่นี่ โดยเฉพาะจากสหรัฐอเมริกาที่มี 4-5 สถาบันที่เข้ามาเปิดหลักสูตร ซึ่งมีการลงทุนมหาศาลและนำไปสู่การต่อยอดเรื่องของการวิจัยและการทำงานเพื่อชุมนุม โดยในส่วนของไทยเองนั้นในเรื่องของการวิจัยกระทรวงวิทยาศาสตร์จะมาทำโครงการความร่วมมือต่อไป อย่างไรก็ตามตนก็เสนอให้กาตาร์ให้การสนับสนุนนำเด็กของประเทศไทยมาเรียนที่นี่ด้วย โดยเฉพาะเยาวชนในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้เองตนคิดว่าถ้ามีโอกาสได้มาศึกษาก็น่าจะเป็นประโยชน์

นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า ตนพึงพอใจการเดินทางมาเยือนกาตาร์ เพราะเป็นการยืนยันว่าประเทศไทยให้ความสำคัญ กับประเทศนี้และประเทศกาตาร์ ก็เป็นประเทศแรกที่ตนเองมาเยือน ซึ่งตนเป็นหัวหน้ารัฐบาลคนแรกที่มาเยือนนับตั้งแต่เปิดความสัมพันธ์ทางการทูต ซึ่งการตอบรับก็เป็นไปด้วยดี ทั้งสองฝ่ายค่อนข้างที่จะพูดคุยกันง่าย เพราะว่าเห็นความสอดคล้องต้องการถึงความต้องการที่จะผลักดันกันต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น