วันอังคารที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2552

'พนัส'เตือนคลัง ดูเงินชดเชย ให้รอบคอบ

"พนัส" เตือน ก.คลัง พิจารณาจำนวนเงินสำหรับชดเชยเงินคงคลังให้ชัดเจน ก่อนโยกเงิน 1.5 แสนล้าน มาลงทุน"ไทยเข้มแข็ง" แนะจัดสรรในโครงการที่ครม.เคยเห็นชอบไปแล้ว พร้อมให้ระวังขัดรธน. ม.167
เมื่อวันที่27 ต.ค. นายวัชระ กรรณิการ์รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.)ได้เสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติปรับชื่อคณะกรรมการติดตามเร่งรัดการดำเนินโครงการตามแผนฟื้นฟู เศรษฐกิจระยะที่ 2 ที่มี นายพนัส สิมะเสถียร เป็นประธานฯ เป็นคณะกรรมการติดตามและประเมินผลการดำเนินโครงการตามแผนปฏิบัติการไทยเข้ม แข็ง2555 เนื่องจากมติครม.5 ส.ค. 2552 เห็นชอบการเพิ่มเติมอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการติดตามเร่งรัดการใช้จ่ายงบ ประมาณภาครัฐ ที่มี นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานทำหน้าที่ติดตามเร่งรัดการใช้จ่ายเงินตามแผน ฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะที่ 2 ด้วย ดังนั้น เพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนกันคณะกรรมการชุดนายพนัสจะทำหน้าที่ในส่วนการ ติดตามประเมินผลโครงการเท่านั้น นายวัชระ กล่าวต่อว่า สศช.ได้รายงานผลการประชุมคณะกรรมการฯกรณีที่มีการจัดสรรเงิน พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินฯ ให้โครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง2555 เพิ่มเติมอีก 150,000 ล้านบาท ว่ากระทรวงการคลังควรพิจารณาจำนวนเงินสำหรับชดเชยเงินคงคลังที่ชัดเจนก่อน จัดสรรเงินกู้เพิ่มเติม และควรให้ความสำคัญกับโครงการที่อยู่ภายใต้แผนที่ครม.มีมติเห็นชอบเมื่อ 6 พ.ค. 2552เป็นลำดับแรก และให้ระวังการดำเนินการที่อาจขัดต่อรัฐธรรมนูญโดยเฉพาะในมาตรา 167 วรรคแรก ประเด็นการเพิ่มเติมเปลี่ยนแปลงรายการโครงการที่จะต้องมีรายละเอียดแผนงาน โครงการ รวมถึงเอกสารที่ครบถ้วนด้วย นอกจากนี้ คณะกรรมการฯ มีความเห็นว่าการดำเนินแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง2555จำเป็นต้องมีการตรวจสอบ ความซ้ำซ้อนของโครงการ ทั้งในส่วนที่ใช้แหล่งเงินลงทุนจากพ.ร.ก.วงเงิน 200,000 ล้านบาท ร่างพ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ พ.ศ..... วงเงิน 400,000 ล้านบาท และงบประมาณประจำปีงบประมาณพ.ศ. 2553 เนื่องจากในระยะต่อไปอาจมีการเสนอขออนุมัติโครงการเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง อาจทำให้เกิดความซ้ำซ้อนได้ นอกจากนี้ ควรมีการตรวจสอบความเหมาะสมของราคาวัสดุอุปกรณ์และต้นทุนต่อหน่วยในการ ดำเนินโครงการเปรียบเทียบกับราคากลางอย่างรอบคอบด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น