วันพฤหัสบดีที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2552

ศาลสูงยกคำร้อง ดับฝันราเกซ ส่งตัวกลับไทย

ศาลฎีกาแคนาดา พิพากษายืน ยกคำร้อง 'ราเกซ' พ่อมดการเงิน พร้อมให้ส่งตัวกลับไทยในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน หลังต่อสู้ยาวนาน 13 ปี ตำรวจ รอรับตัวกลับ โดยเร็วที่สุด ...
สำนักข่าวเอพี รายงานจากเมืองแวนคูเวอร์ มณฑลบริติช โคลัมเบีย ประเทศแคนาดา เมื่อคืนวันพฤหัสบดี ที่ 29 ต.ค. เวลาประมาณ​ 21.30 น.​ตามเวลาประเทศไทย ว่า ในท่ีสุด คดีของ นายราเกซ สักเสนา อดีตที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการธนาคารกรุงเทพพณิชยการ จำกัด (มหาชน) หรือ “บีบีซี” ฉายา “พ่อมดการเงิน” ชาวอินเดีย ผู้หนีหมายจับของทางการไทย ในข้อหายักยอกทรัพย์ของ บีบีซี 88 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2,990 ล้านบาท) ไปกบดานและต่อสู้คดีส่งผู้ร้ายข้ามแดนในแคนาดาถึง 13 ปี ซึ่งนับเป็นคดีส่งผู้ร้ายข้ามแดนท่ียาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์แคนาดา ได้มาถึงบทลงเอย เมื่อศาลฎีกา มณฑลบริติช โคลัมเบีย มีคำพิพากษายืน ตามคำตัดสินของรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม และศาลอุทธรณ์แคนาดา ให้ส่งตัวเขากลับมาดำเนินคดีในประเทศไทยรายงานข่าวแจ้งว่า ผู้พิพากษาศาลฎีกามณฑลบริติช โคลัมเบีย ได้ยกคำร้องของนายราเกซ ที่ขอให้พิจารณาคำตัดสินส่งตัวเขากลับประเทศไทยในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนเสียใหม่ ซึ่งคำพิพากษาครั้งนี้ปูทางให้มีการส่งตัวเขากลับไทยโดยทันที และคาดว่าตำรวจไทยท่ีเดินทางไปเฝ้ารอผลการตัดสินจะนำตัวเขากลับไทยโดยเร็วท่ีสุด ซึ่งในประเทศไทย มีคดีรอนายราเกซอยู่ราว 20 คดีคำพิพากษาครั้งล่าสุดของศาลฎีกามีขึ้น หลังเมื่อเดือน พ.ค.ท่ีผ่านมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมของแคนาดา มีคำสั่งให้ส่งตัวนายราเกซ กลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย ในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน ซึ่งเขาได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลอุทธรณ์มณฑลบริติช โคลัมเบีย โดยอ้างว่า หากถูกส่งตัวกลับไทย จะไม่ได้รับการดำเนินคดีอย่างยุติธรรม และอาจตกอยู่ในอันตราย เพราะไทยมีปัญหาเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชน แต่ศาลอุทธรณ์ก็พิพากษายืนตาม รมว.ยุติธรรม ให้ส่งตัวนายราเกซกลับไทย ทำให้เขาต้องยื่นฎีกาต่อศาลฎีกาดังกล่าวนายราเกซถูกทางการไทย ตั้งข้อหาเมื่อปี 2539 ในข้อหายักยอกทรัพย์ของบีบีซี ซึ่งในขณะนั้นมีมูลค่า 72 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2,500 ล้านบาท) โดยระบุว่า การฉ้อโกงนี้มีส่วน ทำให้บีบีซีล้มละลาย เมื่อปี 2538 อีกทั้งส่งผลให้เกิดวิกฤติการเงินในเอเชีย หรือ “วิกฤติต้มยำกุ้ง” เมื่อปี 2540 ซึ่งในขณะท่ีถูกตั้งข้อหาสร้างลูกหนี้เทียม เพื่อยักย้ายถ่ายเทเงินหลายล้านดอลลาร์จากบีบีซีนั้น นายราเกซยังมีตำแหน่งเป็นท่ีปรึกษาธนาคารกรุงเทพฯ ด้วย จากนั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ กองบัญชาการตำรวจแห่งชาติในขณะนั้น ได้ออกหมายจับนายราเกซในวันที่ 5 มิ.ย .2539 ส่งผลให้เขาถูกตำรวจม้าหลวงแคนาดาจับกุมตัวท่ีเมืองวิสท์เลอร์ จากนั้น เขาถูกกักบริเวณในบ้านพัก และถูกปล่อยตัวภายใต้เงื่อนไขอันเข้มงวดสลับกันไปมาหลายครั้ง โดยระหว่างต่อสู้คดี นายราเกซอ้างตลอดเวลาว่าตนเองตกเป็น “แพะรับบาป” แทนผู้บริหารบีบีซีบางคน และถูกดำเนินคดีเพราะเจ้าหน้าที่กำกับดูแลกฎระเบียบระบบการเงินของไทยรู้สึกอับอายในคดีฉ้อโกงที่เกิดขึ้น
ทั้งนี้ อายุความในคดีของนายราเกซ ท่ีเกี่ยวข้องกับตลาดหลักทรัพย์ของไทยจะหมดอายุความในเดือน ก.ค.2553 ซึ่งถ้าถึงเวลานั้น ศาลฎีกาแคนาดา ยังไม่มีคำพิพากษาให้ส่งตัวนายราเกซ เขาก็จะพ้นผิด
ทั้งนี้ ศาลฎีกาแคนาดาไม่ชี้แจงเหตุผลใดๆ ในการพิพากษายกคำร้องคัดค้านส่งผู้ร้ายข้ามแดนของนายราเกซในครั้งนี้ ขณะท่ีนางลิส แคนติน โฆษกกระทรวงยุติธรรมแคนาดา แถลงว่า นายราเกซ จะเข้ามอบตัวหลังทราบคำตัดสิน แต่ไม่เผยรายละเอียดอื่นๆ เรื่องการส่งมอบตัว เพราะหวั่นเกรงว่าจะเกิดความเสี่ยงในการรักษาความปลอดภัย ส่วนนายปรเมศร์ อินทรชุมนุม โฆษกสำนักอัยการสูงสุดของไทย กล่าวแสดงความยินดีในคำพิพากษาของศาลฎีกาแคนาดา และเผยว่า นายราเกซ มีคดีกว่า 20 คดี รออยู่ในประเทศไทยเว็บไซต์ “theprovince.com” ของแคนาดา รายงานด้วยว่า ก่อนที่ศาลฎีกาแคนาดาจะมีคำพิพากษาไม่นานนัก นายราเกซ ซึ่งป่วยด้วยโรคลมปัจจุบัน เมื่อเดือนมี.ค. ปีท่ีแล้วจนต้องนั่งรถเข็น และแขนข้างซ้ายใช้การไม่ได้ให้สัมภาษณ์ส่ือมวลชนในแคนาดาเหมือนกับจะรู้ชะตากรรมตัวเองว่า “ถ้าผมจะต้องไป ก็ต้องไป” หลังทราบคำพิพากษา นายอามันธีป ซิงห์ ทนายของนายราเกซ ให้สัมภาษณ์ว่า ตำรวจแคนาดาได้ส่งมอบตัวนายราเกซให้เจ้าหน้าท่ีไทยท่ีท่าอากาศยานนานาชาติ เมืองแวนคูเวอร์เรียบร้อยแล้ว เมื่อช่วงบ่ายวันพฤหัสฯ ที่ 29 ต.ค. ตามเวลาท้องถิ่น พร้อมทั้ง เผยว่า นายราเกซ ยอมรับคำพิพากษาของศาลฎีกาแคนาดา และจะยุติการต่อสู้คดีเพื่อขออยู่ในแคนาดาต่อไป แต่พร้อมจะสู้คดีปกป้องตนเองในประเทศไทย นายซิงห์ยังแสดงความวิตกกังวลว่า ทางการไทยอาจตั้งข้อหานายราเกซเพิ่มเติม แม้ว่าเจ้าหน้าที่ไทยจะให้คำมั่นกับทางแคนาดาว่านายราเกซจะถูกพิจารณาคดีในข้อหาที่เกี่ยวกับตลาดหลักทรัพย์เท่านั้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น